Home
>
Knowledge Sharing
Tips for Application: Letter of Recommendation 1

เอกสารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการสมัครทุนคือจดหมายรับรองหลายคนอาจจะคิดว่าไม่สำคัญแต่ที่จริงจดหมายรับรองมีผลต่อใบสมัครของเรามากทีเดียวนะ และกรรมการของฟุลไบรท์ก็ชอบอ่านจดหมายรับรองกันด้วยอ่านกันจริงจังพอกับอ่าน SOPและ SP เลยเชียวจดหมายรับรองที่ดีจะช่วยให้กรรมการได้รู้จักแง่มุมอื่น ๆ ของผู้สมัครซึ่งอาจจะช่วยย้ำจุดเด่น หรือช่วยให้เห็นคุณสมบัติบางอย่างที่กรรมการมองหาดังนั้นจดหมายรับรองจึงไม่ใช่แค่แบบฟอร์มลงลายเซ็น การเลือกคนเขียนจดหมายรับรองจึงสำคัญมากพอๆ กับการช่วยเตรียมข้อมูลให้กับคนเขียนมาดูกันว่าประสบการณ์ของฟุลไบรท์บอกอะไรเราบ้าง

 

อย่างแรกเลยการเลือกคนเขียนจดหมายรับรองไม่จำเป็นต้องเลือกคนมีตำแหน่งสูง ๆ หรือคนดังถ้าคน ๆนั้นไม่รู้จักเราดี เพราะตำแหน่งและความดังไม่ได้ทำให้จดหมายรับรองมีน้ำหนักเท่าเนื้อหาเราอาจจะเลือกอาจารย์ที่รู้จักเราจริง ๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่อาจารย์ที่ปรึกษาก็ได้หรือถ้าเป็นที่ทำงาน ในหน่วยงานใหญ่ ๆ บางแห่งเราอาจจะมีเพื่อนร่วมงานที่รู้จักเรามากกว่าหัวหน้างานเช่นคนที่คอยสอนงานเราและเห็นเรามาตั้งแต่ต้น  ในกรณีที่มีประสบการณ์ทำงาน ขอแนะนำให้คนเขียนจดหมายรับรองเป็นอาจารย์คนนึงและคนจากที่ทำงานคนนึงจะได้ช่วยเน้นศักยภาพของเราทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน แต่!!!! ต้องไม่ใช่คนในครอบครัวหรือญาติสนิทถึงแม้ว่าจะเป็นอาจารย์หรือหัวหน้างานของเราก็ตามอันนี้ถือว่าสนิทกันเกินไปจนเกิดความลำเอียงได้

 

เมื่อเลือกคนได้แล้วเราก็ควรจะมีตัวช่วยให้ด้วย โดยการเตรียมเอกสารหรือข้อมูลประกอบ เช่น

1.     transcripts

2.    ข้อมูลโครงการงานวิจัย paperของเราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะไปเรียน

3.    ร่าง SOP และ/หรือ SP

4.    CV หรือ resume

5.    ลิสต์ประเด็นสำคัญๆ ที่อยากให้กรรมการรู้เกี่ยวกับเรา ซึ่งควรจะเกี่ยวกับทุนและโปรแกรมที่จะไปเรียนรวมทั้งเป้าหมายในอนาคต

6.    ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับจดหมายรับรองเช่น ต้องส่งทางไหน มีฟอร์มรึเปล่า จำกัดจำนวนคำหรือไม่ กรณีของฟุลไบรท์ ตอนนี้ทุน TGS เรารับ

       เฉพาะจดหมายรับรองที่ส่งเข้าระบบเท่านั้นผู้สมัครอาจจะ ต้องทำความเข้าใจและให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคกับคนเขียนนิดนึงเพื่อกันการ

       ผิดพลาด

7.    เน้น deadlineว่าต้องส่งเมื่อไหร่ วันไหน กี่โมง ที่ต้องเน้นเรื่องนี้เพราะเมื่อถึงเวลาปิดรับสมัครระบบจะตัดอัตโนมัติ เอกสารที่ส่งหลังจากนั้นจะ

       ไม่ได้รับการผิดจารณาหลายครั้งที่เอกสารรับรองส่งมาหลัง  เวลาปิดรับสมัคร ทำให้ใบสมัครนั้นไม่สมบูรณ์และถูกตัดสิทธิ์ไปอย่างน่าเสียดาย

 

นอกจากนี้เราควรติดต่อคนเขียนแต่เนิ่น ๆ เพราะการเขียนจดหมายรับรองต้องใช้เวลาพอสมควรประมาณเดียวกับที่เราเขียน SOP และ SP นั่นแหละ และเมื่อส่งจดหมายรับรอง ส่งใบสมัครเรียบร้อยแล้วอย่าลืมขอบคุณและแจ้งความคืบหน้ากับคนเขียนด้วย เขาจะได้รู้ว่าที่เขียนให้ไปแล้วผลเป็นยังไงเราได้หรือไม่ได้ และเราตัดสินใจรับทุนนั้นหรือมหาวิทยาลัยนั้นรึเปล่า

 

รู้แบบนี้แล้วรีบวางแผนได้เลยจะขอให้ใครเป็นคนเขียน เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมจะสมัครทุนหรือสมัครเรียนเราจะได้เริ่มได้ทันที