เป็นที่รู้กันว่าระบบกฎหมายไทยจะมีลักษณะคล้ายกับฝั่งอังกฤษ คือเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร (civil law) ต่างจากอเมริกาที่ใช้กฎหมายจารีตประเพณี (common law) ก็เลยมีคำถามตามมาว่า ถ้าแบบนั้นเราจะไปเรียนกฎหมายที่อเมริกาทำไม เรียนแล้วเอามาใช้ได้จริงรึ ถ้าย้อนกลับไปฟัง Meet the Fulbrighters Series วันที่ 9 มีนาคม พี่ ๆ จะตอบเหมือนกันว่าได้และได้ประโยชน์มากกกกด้วย นั่นก็คือ
1. ได้วิธีคิด เพราะการเรียนกฎหมายในอเมริกาจะเป็นลักษณะคล้ายกับ storytelling คือเป็นการเล่าเคส แล้วดูว่าศาลตัดสินยังไง วางหลักอะไรไว้ ซึ่งการตั้งคำถามของอาจารย์ และการถกประเด็นกับเพื่อนในชั้นเรียนจะทำให้เราได้มุมมองหลากหลายในการตีความ การปรับใช้กฎหมาย รวมทั้งช่องโหว่ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นอะไรที่หาไม่ได้จากการอ่านตัวกฎหมายอย่างเดียว
2. ได้แนวทางในการรับมือกับประเด็นใหม่ ๆ เนื่องจากอเมริกามีความก้าวหน้ากว่าไทย เช่นในด้านเทคโนโลยี เขาก็จะมีกฎหมายที่ก้าวหน้ากว่าเราในหลาย ๆ เรื่อง และก็จะมีปัญหาหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายนั้น ๆ ตามก่อนเรา ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าต่อไปถ้าเราจะมีกฎหมายคล้าย ๆ กันนี้ เราจะต้องระวังอะไรบ้าง จะหลีกเลี่ยงอะไร ยังไง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยกับอเมริกา เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น
ขอเพิ่มเติมว่า การเรียนกฎหมายที่อเมริกาจะบังคับให้เราต้องคิดวิเคราะห์เยอะมาก และต้องกล้าที่จะแสดงความเห็นของตัวเอง เพราะพี่ ๆ บอกว่าในชั้นเรียนจะเน้นการวิเคราะห์เคสจาก reading assignments (ซึ่งเยอะมากถึงมากที่สุด) ทุกคนในห้องจะต้องมีส่วนร่วม แต่ความเข้มข้นจะมากน้อยต่างกันไปแล้วแต่มหาวิทยาลัย พี่บางคนเล่าขำ ๆ ว่าเหมือนต้องสอบเนติฯ เป็นภาษาอังกฤษทุกวัน
ทั้งนี้ คนที่จบด้านกฎหมายระดับปริญญาตรี สามารถเข้าเรียนปริญญาโทด้านกฎหมายที่อเมริกาได้เลย ในหลักสูตร Master of Laws (LL.M) ซึ่งจะใช้เวลาเรียน 1 ปี แต่ถ้าจบปริญญาตรีสาขาอื่นมา ต้องสมัครหลักสูตร Juris Doctorate (JD) ที่ถือเป็นปริญญาแรกของสาขากฎหมาย ใช้เวลาเรียน 3 ปี รวมวิชาพื้นฐาน จากนั้นจึงสามารถสมัครหลักสูตร LL.M ได้
สำหรับใครที่สนใจจะสมัครสอบเป็นผู้พิพากษาเมื่อเรียนจบ พี่ ๆ มีคำแนะนำว่าให้เช็คดี ๆ ก่อนว่าต้องใช้วิชาอะไรในการสอบบ้าง เพราะบางวิชาจะรวมอยู่ในหลักสูตร JD ซึ่งคนที่เรียน LL.M ก็สามารถไปลงเรียนได้
ใครสนใจฟังฉบับเต็มของ Meet the Fulbrighters Series: Legal Studies in the U.S. เข้าไปฟังได้ที่ https://www.facebook.com/353795897307/videos/936981893739259